หน้าแรก news “อนุทิน” แจงยิบ หลัง “วิษณุ-อภิสิทธิ์” รุมวิจารณ์นโยบายกัญชา-ข้าว ย้ำประโยชน์ “ประชาชน” ต้องมาก่อน “รัฐ”

“อนุทิน” แจงยิบ หลัง “วิษณุ-อภิสิทธิ์” รุมวิจารณ์นโยบายกัญชา-ข้าว ย้ำประโยชน์ “ประชาชน” ต้องมาก่อน “รัฐ”

0
“อนุทิน” แจงยิบ หลัง “วิษณุ-อภิสิทธิ์” รุมวิจารณ์นโยบายกัญชา-ข้าว ย้ำประโยชน์ “ประชาชน” ต้องมาก่อน “รัฐ”
Sharing

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊ก “อนุทิน ชาญวีรกูล” ชี้แจงนโยบายพรรคภูมิใจไทย จำนวน 2 ตอนด้วยกัน โดยตอนแรก เป็นการอธิบายถึง “นโยบายข้าวระบบกำไรแบ่งปัน” ที่ถูกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์วิจารณ์ และตอนที่ 2 เป็นการอธิบาย “นโยบายกัญชาเสรี” ที่ถูกนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีพาดพิง มีใจความว่า

 

ชี้แจงด้วยสติ ไม่โต้ตอบด้วยอคติ (ตอนที่ 1)
ข้าวระบบกำไรแบ่งปัน
……
“ข้อห่วงใย ความกังวล และความเห็นของ อดีตนายกรัฐมนตรี และ รองนายกรัฐมนตรีปัจจุบัน เป็นการสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ และตัวตนของผู้ใช้อำนาจรัฐ ที่มองประโยชน์ของรัฐ มากกว่าคิดถึงประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่”

วันนี้ เขียนค่อนข้างยาว แต่อยากให้อ่าน เพื่อเป็นข้อมูลชี้แจงแทนกันได้
….

เมื่อวานนี้ วันเดียว มีอดีตนายกรัฐมนตรี และ รองนายกรัฐมนตรี ท่านปัจจุบัน พูดจาพาดพิงและตัดสินว่านโนบายของพรรคภูมิใจไทย จะก่อให้เกิดปัญหา

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหาว่านโยบายกำไรแบ่งปัน ที่จะนำมาใช้กับพืชผลการเกษตรทุกชนิด รวมทั้งข้าว จะทำให้คนไทยต้องกินข้าวราคาแพง

ท่านอ้างเหตุสารพันที่ไม่ควรทำ แต่กล่าวโดยรวมคือ นโยบายของพรรคภูมิใจไทย มีผลเสียมากกว่าผลดี

ท่านรองนายกรัฐมนตรี วิษณุ เครืองาม ตอบคำถามสื่อมวลชน พาดพิงนโยบายกัญชาเสรี ของพรรคภูมิใจไทย ว่าก้าวหน้ากว่าที่รัฐบาลนี้ ทำไว้มาก แต่น่าจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี โดยอ้างอิงความเห็นของนักวิชาการ ที่มาเล่าให้ฟัง และแสดงความห่วงใยเรื่องการปลูกกัญชา ในสภาพที่มีการใช้สารเคมีปราบศัตรูพืช จะเป็นอันตรายต่อผู้ใช้กัญชาเป็นยา

ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ผู้นำเสนอนโยบายข้าว ระบบกำไรแบ่งปัน และ นโยบายกัญชาเสรี มีเป้าหมายเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม และรายได้ใหม่ ให้แก่ชาวนา และคนไทย อย่างเป็นธรรม ภายใต้แนวคิดต้องลดอำนาจรัฐ เพื่อปากท้องประชาชน

ผขอใช้สิทธิชี้แจง และแสดงความเห็น ในฐานะผู้ถูกพาดพิงว่า ข้อห่วงใย ความกังวล และความเห็นของ อดีตนายกรัฐมนตรี และ รองนายกรัฐมนตรีปัจจุบัน เป็นการสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ และตัวตนของผู้ใช้อำนาจรัฐ ที่มองประโยชน์ของรัฐ มากกว่าคิดถึงประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่

ผมจะไม่พูดว่าสมควรหรือไม่ที่ท่านจะกล่าวหา วิจารณ์นโยบายพรรคภูมิใจไทย หรือพรรคใดๆ ก็ตาม โดยที่ท่านไม่ได้ศึกษา และไม่รู้จริง เพียงแต่นำประสบ การณ์ในอดีต และคำบอกเล่าของผู้อื่น มาเป็นข้อมูลพื้นฐาน แล้วมากล่าวหา ตัดสินว่านโยบายพรรคภูมิใจไทย ส่งผลเสีย และไม่ควรทำ

นโยบายที่พรรคภูมิใจไทย เสนอทุกนโยบาย ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเอง เช่นเดียวกับนโยบายพรรคการเมืองทุกพรรค และ นโยบายรัฐบาลปัจจุบันนี้

ผมขอเรียนว่านโยบายข้าว ระบบกำไรแบ่งปัน และ นโยบายกัญชาเสรี เป็นนโยบายที่ผ่านกระบวนการศึกษา วิจัย และรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน มาแล้ว และ พรรคภูมิใจไทย ได้นำข้อมูลที่ได้รับมายกร่างกฎหมาย เพื่อจะนำสู่การปฏิบัติไว้แล้ว ซึ่งมีประชาชนร่วมลงชื่อสนับสนุน มากกว่า 2 หมื่นคน

การที่ท่านหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นห่วงคนไทยจะกินข้าวแพง หากนำระบบกำไรแบ่งปัน มาใช้ จะไม่เกิดขึ้นจริง เพราะข้าวเป็นสินค้าควบคุมราคาของรัฐบาล หากต้นทุนการผลิตไม่เพิ่ม จะปรับราคาได้อย่างไร

ระบบกำไรแบ่งปัน เป็นการใช้ระบบริหารจัดการมาแก้ไขปัญหาการจัดสรรส่วนแบ่งที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจข้าว มาจัดสรรใหม่ให้เป็นธรรม โดยยึดหลักคิดของพ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย ซึ่งใช้มา 35 ปีแล้ว เป็นต้นแบบ แต่ปรับปรุง แก้ไขจุดอ่อน ที่จะทำให้ชาวนา เสียเปรียบ ให้มีความเป็นธรรมมากขึ้น

ในระบบกำไรแบ่งปัน ถ้าข้าว สารแพง ชาวนาจะได้ส่วนแบ่ง มีรายได้เพิ่มขึ้น ผิดกับระบบปัจจุบัน หรือ ระบบในอดีต ที่ชาวนา พูดกันติดปาก ว่าข้าวสารแพง ข้าวเปลือกถูก ซึ่งเป็นต้นเหตุของความเหลื่อมล้ำรายได้ในสังคมไทย

นโยบายกำไรแบ่งปัน พรรคภูมิใจไทย จะนำมาใช้กับพืชผลการเกษตร ทุกชนิด เพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร เราให้ความสำคัญกับการสร้างรายได้ สร้างกำลังซื้อให้กับเกษตรกร ซึ่งเป็คนกลุ่มใหญ่ เพื่อจะมาเป็นแรงกระตุ้น ขับเคลื่อนธุรกิจของประเทศไทย

ระบบกำไรแบ่งปัน ที่พรรคภูมิใจไทยมีแนวคิดและเป้าหมายต่างจากระบบประกันราคา ที่พรรคประชาธิปัตย์ นำเสนอ เพราะระบบกำไรแบ่งปัน เป็น การนำเสนอวิธีแก้ไขปัญหา อย่างยั่งยืน โดยให้ชาวนา มีส่วนร่วมนำเสนอ พิจารณา กำหนด และตัดสินใจ ร่วมกับโรงสี ผู้ค้าข้าว สถาบันการเงิน และรัฐบาล ไม่ใช่นโยบายรายปีหรือนโยบายแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

ระบบกำไรแบ่งปัน ใช้มานานถึง 35 ปี กับ อ้อยและน้ำตาลทราย แสดงถึงความยั่งยืน และมีผลดีมากกว่าผลเสีย อย่างแน่นอน

 

ชี้แจงด้วยสติ ไม่โต้ตอบด้วยอคติ
(ตอนที่ 2)
ทำไม ต้อง มีนโยบายกัญชาเสรี
……

กรณี นโยบายกัญชาเสรี มีเหตุผลเดียวที่พรรคภูมิใจไทย ต้องนำเสนอนโยบายต่อประชาชน ก็เพราะ กฎหมายที่รัฐบาลนี้ จัดทำและบังคับใช้ เป็นกฎหมายที่เป็นประโยชน์ให้กับผู้ผลิตยารายใหญ่ ที่จะเข้าถึงการปลูกกัญชา และการผลิตยา ได้

ในขณะที่เกษตรกร ประชาชนคนไทย ทั่วไป ไม่มีโอกาส ซึ่งพรรคภูมิใจไทย เห็นว่าจะโดยเจตนาใดก็ตาม ของรัฐบาล กฎหมายฉบับนี้ จะส่งผลให้ การใช้ประโยชน์จากกัญชา ถูกผูกขาดโดยกลุ่มทุนขนาดใหญ่ ที่จะครอบงำผลประโยชน์และธุรกิจเกี่ยวเนื่องจากกัญชา ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ คือ ปลูกถึงแปรรูป และมีโอกาสที่จะจำหน่ายผลิตภัณฑ์ราคาแพง ซึ่งจะเป็นการทำลายกัญชา ในรูปของสมุนไพรและภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดกันมานานกว่าสองร้อยปี ของคนไทย

พรรคภูมิใจไทย นำเสนอนโยบายกัญชา โดยมองกัญชา เป็นพืชเศรษฐกิจที่จะมาพลิกฟื้นชีวิตเกษตรกรไทย และให้โอกาสคนไทยเข้าถึง และใช้ประโยชน์จากกัญชา ได้ในราคาถูก หรือ ไม่มีค่าใช้จ่าย

แน่นอนว่าเราจะเข้าไปแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาทั้งระบบ และเราได้ยกร่างกฎหมายไว้เรียบร้อยแล้ว

ถ้าประชาชนเห็นว่ากัญชาควรจะเป็นประโยชน์กับคนไทยส่วนใหญ่ พรรคภูมิใจไทย น่าจะได้รับโอกาสจากประชาชน

แต่ถ้าประชาชนเห็นว่า กัญชา ควรจะเป็นประโยชน์แก่คนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดในวงจำกัด ตามที่รัฐบาลนี้ ให้สิทธิ พรรคภูมิใจไทย ก็พร้อมรับฟังเสียงประชาชน

เรื่องนี้ ไม่ใช่ขายฝัน แต่ทำได้จริง เหมือนที่รัฐบาลนี้ทำหลายนโนบาย เป็นจริงได้ ทั้งๆ ที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าจะทำ ดังนั้นถ้าประชาชนให้การสนับสนุน พรรคภูมิใจไทย จะทำทันที

ถ้ารัฐบาลนี้ จะเป็นห่วงเรื่องสารพิษ ยาฆ่าแมลง ที่จะปลิวไปปนเปื้อนกัญชา ทำให้ไม่มีผลผลิตกัญชาของเกษตรกรไม่มีคุณภาพทำยาได้ รัฐบาลก็ไม่ควรอนุมัตินำสารเคมี สารพิษ เข้ามาขาย เพราะทุกวันนี้ ในพืชผักที่กินเป็นอาหาร มีสารพิษตกค้างมากมาย อันตรายกว่าที่จะเกิดกับกัญชา หลายเท่า ไม่ใช่อนุมัติให้นำสารพิษทางการเกษตร พาราควอต เข้ามาจำหน่าย เช่นที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้

ขอใช้สิทธิชี้แจงเพียงเท่านี้ โดยไม่มีเจตนาจะตอบโต้แต่อย่างใด


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่